ในบทความนี้ PropertySights Real Estate เราจะพาคุณไปทำความเข้าใจประวัติศาสตร์และความหมายที่แท้จริงของเทศกาลสงกรานต์ พร้อมแนะนำวิธีร่วมสนุกกับเทศกาลอย่างเต็มที่
ความหมายของคำว่า "สงกรานต์"
คำว่า "สงกรานต์" มาจากภาษาสันสกฤต แปลว่า"การเคลื่อนย้าย" ในเชิงโหราศาสตร์สงกรานต์หมายถึงช่วงเวลาที่ดวงอาทิตย์เคลื่อนจากราศีมีนไปสู่ราศีเมษ ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นปีใหม่ไทยตามปฏิทินโหราศาสตร์โบราณ
เนื่องจากเดือนเมษายนเป็นเดือนที่มีอุณหภูมิเฉลี่ยสูงที่สุดในประเทศไทย และเทศกาลปีใหม่มีชื่อเสียงในเรื่องประเพณีการสาดน้ำ สงกรานต์จึงมักได้รับการขนานนามว่าเป็นเทศกาลสาดน้ำของไทย ซึ่งถือเป็นข้ออ้างที่ยอดเยี่ยมในการคลายร้อนท่ามกลางอากาศร้อนระอุ
ต้นกำเนิดและประวัติความเป็นมาของเทศกาลสงกรานต์คืออะไร
ต้นกำเนิดของเทศกาลสงกรานต์สืบเนื่องมาจาก ประเพณีทางพุทธศาสนาโบราณ โดยโหรหลวงจะใช้ตารางโหราศาสตร์ภาษาสันสกฤตคำนวณวันขึ้นปีใหม่ไทย ซึ่งต่างจากปฏิทินสากลในปัจจุบันเล็กน้อย ทำให้วันปีใหม่ไทยเลื่อนไปมาในแต่ละปี จนในปี พ.ศ. 2431 รัฐบาลไทยจึงกำหนดให้วันที่ 13 เมษายน เป็นวันสงกรานต์ ต่อมาจึงขยายเป็นเทศกาลยาวถึง 3 วัน จากวันที่ 13 ถึง 15 เมษายน
เทศกาลปีใหม่ไทยมีเรื่องเล่าขานกันมาเกี่ยวกับคู่สามีภรรยาที่ร่ำรวยแต่ไม่มีบุตร จนกระทั่งวันหนึ่ง พระอินทร์ เทพเจ้าสำคัญในตำนานของศาสนาฮินดู ได้ประทานลูกชายที่ฉลาดเฉลียวให้พวกเขา เมื่อเด็กชายเติบโตขึ้น เขาได้รับคำท้าทายให้ดวลปัญญากับท้าวกบิลพรหม โดยเดิมพันว่าผู้แพ้จะต้องยอมให้ตัดศีรษะ สุดท้ายแล้ว ลูกชายของสองสามีภรรยาเป็นฝ่ายชนะการแข่งขัน ส่วนศีรษะของท้าวกบิลพรหมถูกเก็บรักษาไว้ในถ้ำ และจะนำออกมาให้ผู้คนสักการะปีละครั้งในช่วงที่ดวงอาทิตย์โคจรมาอยู่ในกลุ่มดาวราศีเมษ ซึ่งตรงกับเทศกาลสงกรานต์พอดี
อีกด้านหนึ่งของสงกรานต์ก็คือความเชื่อมโยงกับวิถีชีวิตชาวนาในสมัยก่อน ช่วงทำนา ชาวนามักคลายร้อนด้วยการสาดน้ำใส่กันและทาแป้งขาวที่เรียกว่า "ทานาคา"
ทานาคาทำมาจากเปลือกไม้ มีส่วนช่วยให้รู้สึกเย็นสบายเวลาทาที่ผิว พอถึงเทศกาลสงกรานต์ พวกเขาก็เลยนำประเพณีการสาดน้ำและทาแป้งทานาคาที่ใบหน้ามาทำด้วย เพื่อคลายร้อนและสร้างความสนุกสนาน จนกลายเป็นประเพณีที่คนไทยสืบทอดต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน
สงกรานต์มีประเพณีและกิจกรรมอะไรบ้างที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
กิจกรรมสงกรานต์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดมักเกี่ยวกับ การปฏิบัติตามประเพณีทางพุทธศาสนา ทั้งที่วัดหรือที่บ้าน โดยในสองสถานที่นี้ มีธรรมเนียมปฏิบัติหลายอย่างที่คนไทยส่วนใหญ่ยึดถือ
1. สงกรานต์ที่วัด - ทําบุญและรับพรจากพระสงฆ์
การทำบุญที่วัดเป็น หนึ่งในประเพณีสงกรานต์ที่สำคัญที่สุด โดยผู้คนจะนำอาหารไปถวายพระ และรับพรจากพระสงฆ์ ในความเชื่อแบบพุทธ การทำบุญช่วยให้เราก้าวหน้าและก้าวสู่หนทางแห่งการหลุดพ้น
วิธีทำบุญในช่วงสงกรานต์อื่นๆ ได้แก่ การขนทรายเข้าวัด เพื่อช่วยในการบูรณะซ่อมแซม การปล่อยปลาหรือนกเป็นอิสระ การแสดงความเคารพบรรพบุรุษ และการสรงน้ำพระพุทธรูป
2. สงกรานต์ที่บ้าน - แสดงความเคารพต่อผู้สูงอายุและทำความสะอาดบ้าน
การเดินทางกลับบ้านและใช้เวลาอยู่กับครอบครัวในช่วงสงกรานต์ถือเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากวันปีใหม่ไทยเป็น วันหยุดที่รวมผู้คนเข้าด้วยกันขณะอยู่ที่บ้าน คนไทยจะแสดงความเคารพต่อผู้สูงอายุด้วยการล้างมือและเท้าให้ท่าน เรียกว่า พิธีรดน้ำดำหัว โดยตามประเพณีลูกหลานจะใช้น้ำอบและมอบพวงมาลัยดอกมะลิให้กับผู้สูงอายุ
อีกประเพณีที่พบเห็นได้ทั่วไปคือการทำความสะอาดบ้าน ซึ่งถือเป็นวิธีขจัดสิ่งร้ายและโชคร้ายออกจากบ้าน โดยการจัดบ้านให้เรียบร้อยให้เป็นระเบียบถือว่าเป็นการเริ่มต้นปีใหม่อย่างถูกต้อง
การเฉลิมฉลองสงกรานต์ในแบบสมัยใหม่มีอะไรบ้าง
วิธีการเฉลิมฉลองสงกรานต์ในยุคสมัยใหม่ได้นำเอาประเพณีบางอย่างที่ทำให้เทศกาลนี้เป็นที่รู้จัก เช่น รดน้ำดำหัว มาปรับเปลี่ยนให้มีความน่าตื่นเต้นกิจกรรมวันปีใหม่รูปแบบใหม่เหล่านี้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จนกลายเป็นงานที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
1. สงกรานต์ที่ปางช้าง - เขตรักษาพันธุ์ช้าง
การไปเที่ยวปางช้างในช่วงสงกรานต์เป็น กิจกรรมสำหรับครอบครัวที่น่าสนใจ หรือผู้ที่ต้องการความสนุกห่างจากฝูงชน คุณสามารถให้อาหารช้าง อาบน้ำช้าง และสนุกไปกับการถูกช้างสาดน้ำใส่เพื่อชำระล้างเคราะห์กรรม
แม้ว่าในประเทศไทยจะสามารถขี่ช้างได้อย่างถูกกฎหมาย แต่อาจเป็นการทำร้ายสัตว์และทารุณกรรมในบางกรณี ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการขี่ช้างโดยเฉพาะในช่วงสงกรานต์
2. สงกรานต์บนท้องถนน - เทศกาลสาดน้ำไทย
ปัจจุบันสงกรานต์เป็นที่รู้จักกันในชื่อเทศกาลสาดน้ำไทย โดยถนนสายหลักจะปิดการจราจรและกลายเป็น สนามสำหรับการเล่นสงครามน้ำขนาดใหญ่ทั้งชาวต่างชาติและคนไทยต่างมีส่วนร่วมในกิจกรรมนี้ ด้วยการตักน้ำใส่แก้ว ถัง และปืนฉีดน้ำ แล้วสาดใส่ทุกคนรอบตัว
เหตุผลของการสาดน้ำในเทศกาลสงกรานต์คืออะไร
จุดเริ่มต้นของประเพณีสาดน้ำในสงกรานต์ มาจากความเชื่อที่ว่าเป็น การชำระล้างสิ่งไม่ดีต่างๆ ในปีเก่าให้หมดไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเคราะห์กรรมหรือบาปกรรม การชำระล้างนี้มีรากฐานมาจากประเพณีทางพุทธศาสนา
อีกสาเหตุหนึ่งของการเล่นสาดน้ำสงกรานต์ที่เป็นรูปธรรมมากกว่า ก็คือเพื่อคลายร้อนจากอากาศที่ร้อนระอุในเดือนเมษายน โดยช่วงเวลานั้น บรรดาชาวนากำลังเตรียมแปลงนาเพื่อเริ่มต้นการเพาะปลูกในฤดูกาลใหม่พอดี การสาดน้ำใส่กันเพื่อคลายร้อนให้แก่คนที่ทำงานในทุ่งนา
ถนนสายไหนในกรุงเทพฯ บ้างที่มีการจัดงานเฉลิมฉลองสงกรานต์
ถนนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในกรุงเทพฯ ที่มีการจัดงานเฉลิมฉลองสงกรานต์คือ ถนนสีลมด้วยความยาวถึง 5 กิโลเมตร ถนนเส้นนี้มักจะแน่นขนัดไปด้วยผู้คนมากมายในช่วงเทศกาลปีใหม่ไทย อีกหนึ่งย่านที่ได้รับความนิยมโดยเฉพาะในหมู่นักท่องเที่ยวก็คือ ถนนข้าวสาร ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นศูนย์รวมของเหล่านักท่องเที่ยวแบ็คแพ็คเกอร์ในใจกลางกรุงเทพฯ
3. เทศกาลดนตรีสงกรานต์ – สำหรับผู้ที่ชื่นชอบปาร์ตี้
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เทศกาลดนตรีสงกรานต์ ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมาก ในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบการปาร์ตี้ งานเทศกาลเหล่านี้มีรูปแบบคล้ายคลึงกับงานปาร์ตี้สุดมันส์อื่นๆในเมืองไทย อย่างเช่น ปาร์ตี้ริมชายหาดในช่วงพระจันทร์เต็มดวง (ฟูลมูนปาร์ตี้) ภายในงาน จะมีเวทีดนตรีสด เครื่องทำโฟมสบู่ และแน่นอนว่าจะขาดการเล่นน้ำสาดใส่กันแบบจัดเต็มไปไม่ได้เลย
เทศกาลดนตรีสงกรานต์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ได้แก่:
- เทศกาล S20 ในกรุงเทพฯ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-15 เมษายน
- เทศกาลดนตรี SIAM Songkran ในกรุงเทพฯ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-15 เมษายน
- งาน Waterbomb กรุงเทพฯ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-15 เมษายน
เคล็ดลับ 3 ข้อ สำหรับวันสงกรานต์
สงกรานต์เป็นมรดกอันศักดิ์สิทธิ์ของไทย และการผสมผสานกิจกรรมสมัยใหม่อย่างสงครามน้ำและเทศกาลดนตรีทำให้เป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่ชาวต่างชาติ เนื่องจากจำนวนผู้เข้าร่วมมีจำนวนมาก จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องใส่ใจกฎระเบียบและประเพณีท้องถิ่น เพื่อความปลอดภัยและความสนุกของทุกคน
1. เตรียมพร้อมที่จะเปียก
เตรียมใจไว้เลยว่าจะต้องเปียกแน่นอน เพราะนี่คือส่วนสำคัญที่สุดของเทศกาล ไม่ว่าคุณจะไปเดินเล่นที่ถนนสีลม ถนนข้าวสาร หรือแม้แต่ออกจากบ้าน ก็มีโอกาสสูงที่จะโดนน้ำสาดใส่ ดังนั้น อย่าลืมใส่เสื้อผ้าที่โดนน้ำได้
ไม่ควรใส่เสื้อสีขาวเนื่องจากเมื่อโดนน้ำแล้วอาจจะทำให้เห็นด้านในเสื้อ เก็บของมีค่าใส่ถุงซิปล็อค และที่สำคัญ อย่าลืมปล่อยใจให้สนุกไปกับเทศกาล
2. หลีกเลี่ยงอุบัติเหตุ
การหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุและการรักษาความปลอดภัยในช่วงสงกรานต์ สงกรานต์ ควรเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก สำหรับทุกคน ออกไปบนท้องถนน ในปี 2566 ค่าสินไหมจากอุบัติเหตุรถยนต์และจักรยานยนต์ในช่วงสงกรานต์สูงถึง 139 ล้านบาท ซึ่งมักเกิดจากการจราจรที่คับคั่งผิดปกติ ฉะนั้น ให้ระมัดระวังตัวเวลาเดินบนท้องถนน และอย่าสาดน้ำใส่ผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์เด็ดขาด
นอกจากนี้ เวลาอยู่ในพื้นที่เล่นน้ำ ควรใส่แว่นตากันน้ำเพื่อปกป้องดวงตา ระวังพื้นลื่น และพยายามอย่ากลืนน้ำที่ใช้เล่น เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาสุขภาพ
3. ให้เกียรติขนบธรรมเนียม
สงกรานต์เป็นส่วนสำคัญของมรดกไทย เราจึงควรเคารพและ อนุรักษ์ประเพณีดั้งเดิมควบคู่ไปกับความสนุกสนาน ต่อไปนี้คือมารยาทที่ควรปฏิบัติในช่วงสงกรานต์:
- ทักทายชาวบ้านด้วยคำว่า "สวัสดีปีใหม่" ซึ่งแปลว่าสุขสันต์วันปีใหม่เป็นภาษาไทย
- อย่าสาดน้ำใส่พระสงฆ์ คุณสามารถสังเกตุได้ว่าใครเป็นพระสงฆ์จากจีวรสีส้มแบบดั้งเดิม
- แต่งกายให้มิดชิดทั้งบนและล่าง อย่าถอดเสื้อผ้าในที่สาธารณะ
- ใช้เฉพาะน้ำสะอาดในการสาดผู้อื่น
- ให้สาดน้ำคนที่ยินยอมเท่านั้น
- งดดื่มแอลกอฮอล์ใกล้บริเวณวัดหรือสถานที่ทางศาสนา
หากคุณวางแผนจะใช้ชีวิตระยะยาวในเมืองไทย ดินแดนแห่งความสนุกสนานและเทศกาลแสนครื้นเครง ติดต่อ บริษัท PropertySights Real Estate วันนี้ เราพร้อมให้คำปรึกษาโดยทีมงานมืออาชีพที่ได้รับใบอนุญาต เรายินดีช่วยให้คุณเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่นี่ได้อย่างราบรื่น ติดต่อเราวันนี้ เพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติม