ติดต่อเรา
×
รายละเอียดผู้ติดต่อ
ห้องนอน
สตูดิโอ
1
2
3
4+
Size [sqm]
min
 
max
Price [฿]
min
 
max
Price [฿]
min
 
max
ติดต่อและเยี่ยมชม Facebook ของเรา
เข้าร่วมติดต่อและเยี่ยมชม PropertySights ของเราบน Facebook! รับสิทธิ์เข้าถึงรายการใหม่ก่อนใคร ทั้งติดต่อขอคําแนะนําจากผู้เชี่ยวชาญ ข้อมูลเชิงลึกของตลาด และเชื่อมต่อกับผู้ที่ชื่นชอบ นอกจากนี้ เรามีสิทธิพิเศษมอบให้สําหรับสมาชิกเท่านั้นอีกด้วย
propertysights.realestate
ถิ่นที่อยู่ในประเทศไทยผ่านวีซ่าการลงทุนและวิธีการขอวีซ่า
ข้อมูลเพิ่มเติม

8 โรงพยาบาลเอกชนชั้นนําในกรุงเทพฯ และจุดเด่นด้านการรักษา

ข้อมูลเกี่ยวกับโรงพยาบาลเอกชนที่ดีที่สุดในกรุงเทพมหานคร คุณภาพการบริการ แผนกพิเศษ และสถานที่ รวมถึงโรงพยาบาลของรัฐ
ประกาศ: กุมภาพันธ์ 26, 2024    
อัพเดท: กรกฎาคม 25, 2024
แชร์บทความ:

กรุงเทพฯ เต็มไปด้วยโรงพยาบาลเอกชนคุณภาพชั้นนำที่ชาวไทยและชาวต่างชาติจำนวนมากนิยมใช้มากกว่าโรงพยาบาลของรัฐ เพื่อความสะดวกและความเชี่ยวชาญที่เพิ่มเข้ามา บทความนี้โดย PropertySights Real Estate จะให้รายละเอียดเกี่ยวกับโรงพยาบาลเอกชน 8 แห่งในเมืองหลวง ความชำนาญพิเศษ และสิ่งที่ทำให้โรงพยาบาลเหล่านั้นโดดเด่นในฐานะทางเลือกการรักษาพยาบาลระดับพรีเมียม

ข้อดีของโรงพยาบาลเอกชนในกรุงเทพฯ

ข้อดีหลักของโรงพยาบาลเอกชนในกรุงเทพฯ คือ มีบุคลากรทางการแพทย์ผู้เชี่ยวชาญระดับแนวหน้าของประเทศ พร้อมนํานวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการรักษา มาให้บริการ

ประเทศไทยมีโรงพยาบาลทั้งสิ้น 1,356 แห่ง ในจํานวนนี้เป็นโรงพยาบาลเอกชน 370 แห่ง ข้อมูลจาก ttb analytics พบว่า โรงพยาบาลเอกชน 80% ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ และมีอัตรากําไรเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 7.7% ต่อปี นับตั้งแต่ปี 2017 ถึง 2021 แม้ว่าจะเป็นช่วงวิกฤติโควิด-19

ช่วงการระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อโรงพยาบาลเอกชนในกรุงเทพมหานคร เนื่องจากมาตรการจํากัดการเดินทาง ตามรายงานขององค์การอนามัยโลกในปี 2010 ประเมินว่ามีนักท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ 167,000 คน ซึ่ง 64.8% เป็นชาวตะวันออกกลางและประเทศในแถบเอเชีย เมื่อสถานการณ์การระบาดคลี่คลาย ส่วนใหญ่โรงพยาบาลเอกชนก็กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งตามปกติ

กรุงเทพฯ ดึงดูดนักท่องเที่ยวเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี ส่วนหนึ่งเนื่องจากเป็นเมืองที่มีโรงพยาบาลที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสากลมากที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อีกทั้งยังเป็นเมืองท่องเที่ยวครบครันและมีสภาพอากาศที่เอื้ออํานวย ซึ่งเป็นเหตุผลอีกประการหนึ่งที่ทําให้นักท่องเที่ยวเหล่านี้เดินทางมายังกรุงเทพฯ

ภายในโรงพยาบาลเอกชน ผู้ป่วยจะได้รับความสะดวกสบายจากห้องพักกว้างขวาง บริการดีเยี่ยมจากเจ้าหน้าที่ และการดูแลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญระดับแนวหน้าพร้อมด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย

โรงพยาบาลเอกชนชั้นนํา 8 แห่งในกรุงเทพฯ

ในกรุงเทพฯ มี โรงพยาบาลเอกชน 8 แห่งที่โดดเด่นกว่าโรงพยาบาลอื่นๆแต่ละแห่งมีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ และมีเครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัยครบครัน

โรงพยาบาลเหล่านี้ได้รับการยอมรับทั่วโลก โดยได้รับการรับรอง Joint Commission International (JCI) จากองค์กรไม่แสวงผลกำไรในสหรัฐอเมริกา ความเกี่ยวข้องดังกล่าวช่วยให้ชาวต่างชาติสบายใจ ทำให้กรุงเทพฯ กลายเป็นสถานที่น่าดึงดูดในการซื้ออสังหาริมทรัพย์

โรงพยาบาลกรุงเทพ (Bangkok Hospital)

โรงพยาบาลกรุงเทพเป็น ผู้นําด้านการรักษาโรคหัวใจ มะเร็ง และโรคระบบกระดูกและกล้ามเนื้อตามการจัดอันดับของนิตยสาร Newsweek ให้เป็น 1 ใน 100 โรงพยาบาลที่ดีที่สุดของโลกในปี 2020

คะแนนความพึงพอใจที่โรงพยาบาลกรุงเทพได้รับนั้น เป็นผลมาจากความมุ่งมั่นในการให้บริการที่เหนือระดับ ทางโรงพยาบาลมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญครอบคลุมเกือบทุกสาขา พร้อมล่ามที่สามารถสื่อสารได้ถึง 26 ภาษา รวมถึงบริการรถลีมูซีนไปสนามบินและบริการขยายวีซ่า สิ่งเหล่านี้ทำให้มั่นใจได้ว่าผู้ป่วยชาวต่างชาติจะได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด

โรงพยาบาลกรุงเทพ เป็นศูนย์กลางของเครือข่ายโรงพยาบาลชั้นนำ ซึ่งประกอบด้วย โรงพยาบาลหัวใจกรุงเทพ (Bangkok Heart Hospital) โรงพยาบาลมะเร็งกรุงเทพ วัฒโนสถ (Bangkok Cancer Hospital Wattanosoth) โรงพยาบาลกรุงเทพ อินเตอร์เนชั่นแนล (Bangkok International Hospital) โรงพยาบาลชีวา ทรานซิชั่นแนล แคร์ (Chiva Hospital Transitional Care) โรงพยาบาลกรุงเทพมี 35 แผนกเฉพาะทาง และสามารถรองรับผู้ป่วยได้ถึง 373 เตียง ที่นี่ยังมีเทคโนโลยีทางการแพทย์ล่าสุด อาทิ หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด, เครื่อง PET/CT scanner, ห้องผ่าตัดอัจฉริยะ, การให้เคมีบำบัด, เครื่อง x-ray แขนกล และอื่นๆ อีกมากมาย

โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ (Siriraj Piyamaharajkarun Hospital)

โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ (SiPH) เป็นอีกหนึ่ง โรงพยาบาลเอกชนชั้นนำของไทยที่ มีชื่อเสียงด้านการวิจัยและนวัตกรรมทางการแพทย์โดยมีความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาและฝึกอบรมแพทย์ที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

SiPH เป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางแบบสหสาขาวิชาชีพ เช่นเดียวกับโรงพยาบาลกรุงเทพ ประกอบด้วยแผนกเฉพาะทางด้านการแพทย์แผนปัจจุบันรวม 22 แผนก และยังมีคลินิกการแพทย์แผนอายุรเวทด้วย ภายในโรงพยาบาลยังมีคาเฟ่และร้านอาหารหลากหลาย อาทิ สตาร์บัคส์ ราเมนฮากาตะ และเบเกอรี่สไตล์ฝรั่งเศส ให้ผู้มาใช้บริการได้ผ่อนคลายและเพลิดเพลิน

โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ มีห้องพักผู้ป่วยรวม 345 ห้อง พร้อมอุปกรณ์การผ่าตัดและการตรวจวินิจฉัยล่าสุด ทำให้สามารถให้การดูแลรักษาโรคและอาการต่างๆ ได้ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ

โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (Bumrungrad International Hospital)

โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์มีแผนกเฉพาะทางครอบคลุมถึง 61 แผนกทั่วทั้งโรงพยาบาล โดยมีความโดดเด่นใน ด้านเทคโนโลยีทางการแพทย์, บริการผู้ป่วยเชิงนวัตกรรม และวิธีการรักษามะเร็งล่าสุด จากสหรัฐอเมริกาและยุโรป นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกคุณภาพ เช่น ศูนย์อาหาร ศูนย์บริการชาวต่างชาติพร้อมล่าม และแม้กระทั่งแหล่งช้อปปิ้งให้ผู้มาใช้บริการได้พักผ่อนและผ่อนคลาย

ในปี 2002 โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์เป็นโรงพยาบาลแรกในเอเชียที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน JCI และล่าสุดในปี 2023 ยังได้รับการจัดอันดับจากนิตยสาร Newsweek ให้เป็นอันดับ 1 ของโรงพยาบาลในประเทศไทย และติด 1 ใน 250 ของโลกอีกด้วย

ปัจจุบันโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์มีห้องพักผู้ป่วยรวม 580 ห้อง ตลอดจนนำเทคโนโลยีการแพทย์ล่าสุดมาใช้ในการรักษา อาทิ ศูนย์ศัลยกรรมด้วยหุ่นยนต์, การรักษามะเร็งอย่างแม่นยำ และเครื่อง CardioInsight ซึ่งสามารถตรวจจังหวะการเต้นของหัวใจผิดจังหวะ

โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท (Samitivej Sukhumvit Hospital)

โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท เป็นที่ยอมรับและ ได้รับรางวัลการันตีมาตรฐาน การดูแลรักษาเด็ก จากองค์กรชั้นนำระดับโลก เช่น องค์การอนามัยโลก (WHO) และองค์การยูนิเซฟ (UNICEF) ที่นี่ยังเป็นจุดหมายยอดนิยมของนักท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ และมีศูนย์การแพทย์ญี่ปุ่น (Japanese Medical Center) ซึ่งให้บริการแก่ผู้ป่วยชาวญี่ปุ่นโดยเฉพาะ

ในฐานะโรงพยาบาลระดับตติยภูมิ โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท มีแผนกเฉพาะทางมากกว่า 12 แผนก นอกเหนือจากกุมารเวชศาสตร์และทารกแรกเกิด โดยมีขนาด 275 เตียง พร้อมห้องตรวจวินิจฉัยโรค 87 ห้องและทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกว่า 400 คน นอกจากนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของเครือโรงพยาบาลสมิติเวช กรุ๊ป ซึ่งประกอบด้วยโรงพยาบาลในเครืออีก 6 แห่ง

ภายในโรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท ยังมีเทคโนโลยีและอุปกรณ์ทางการแพทย์ล่าสุด อาทิ ระบบการผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์ เครื่องมือตรวจวินิจฉัยภาพ และห้องปฏิบัติการที่ครบครัน

โรงพยาบาลเมดพาร์ค (Medpark Hospital)

โรงพยาบาลเมดพาร์คเป็นโรงพยาบาลสหสาขาวิชาชีพแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ ที่ภูมิใจในการมี ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขา พร้อมรับมือกับปัญหาสุขภาพที่ซับซ้อนโรงพยาบาลแห่งนี้เปิดให้บริการเมื่อปี 2020 และได้รับการยอมรับอย่างรวดเร็ว ติดอันดับ 1 ใน 10 โรงพยาบาลไทยยอดเยี่ยมจากการจัดอันดับของนิตยสาร Newsweek ในปี 2022

ภายในโรงพยาบาลออกแบบให้มีพื้นที่สีเขียวเพื่อการพักผ่อน โดยมีสวนสงบบนชั้น 5 และ 10 สร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายให้แก่ผู้มาใช้บริการ โรงพยาบาลเมดพาร์คมีขนาด 550 เตียง พร้อมห้องตรวจรักษากว่า 300 ห้อง รวมถึงทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากกว่า 30 สาขา ที่นี่ยังมีเทคโนโลยีการแพทย์ล่าสุด อาทิ เครื่องถ่ายภาพ PET, MRI และ CT, การรักษาด้วยรังสี ตลอดจนห้องผ่าตัดอัจฉริยะแบบไฮบริด

โรงพยาบาลพระรามเก้า (Praram 9 Hospital)

โรงพยาบาลพระรามเก้าให้บริการมาตั้งแต่ปี 1992 โดย มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านโรคไตและการปลูกถ่ายไตภายในโรงพยาบาลยังมีแผนกการรักษาอื่นๆ อีกหลายแผนก และพร้อมดูแลผู้ป่วยชาวต่างชาติด้วยทีมงานที่สามารถสื่อสารได้หลายภาษา ทั้งอังกฤษ ญี่ปุ่น จีนกลาง เขมร และอาหรับ

โรงพยาบาลพระรามเก้ามีจำนวนเตียง 204 เตียง และมุ่งนำเทคโนโลยีล่าสุดมาใช้ในการตรวจรักษา เช่น เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ 640 สไลซ์ อัลตราซาวนด์ 4 มิติ และการผ่าตัดแบบส่องกล้อง

โรงพยาบาลยันฮี (Yanhee General Hospital)

โรงพยาบาลยันฮีมีชื่อเสียงในฐานะ โรงพยาบาลเฉพาะ ทางด้านศัลยกรรมความงาม งาม โดย 72% ของผู้ป่วยต่างชาติที่เข้ารับการรักษาเป็นการทำศัลยกรรมตกแต่ง ทั้งนี้โรงพยาบาลยังให้บริการการรักษาทั่วไป การแพทย์ทางเลือก และทันตกรรมด้วย

จากการผ่าตัดเสริมความงามทั้งหมด 20% เป็นการเสริมหน้าอก 16% เป็นการยกกระชับใบหน้า 9% เป็นการดึงหน้าท้อง และ 9% เป็นการปรับรูปทรงจมูก โรงพยาบาลยันฮียังเป็นสถานที่มีชื่อเสียงระดับโลกในด้านการแปลงเพศอีกด้วย

โรงพยาบาลยันฮีมีจำนวนเตียงรวม 400 เตียง และมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ 155 คนประจำอยู่อาคาร 15 ชั้น

โรงพยาบาล BNH (BNH Hospital)

โรงพยาบาล BNH เป็น หนึ่งในโรงพยาบาลเอกชนแห่งแรกๆ ที่ก่อตั้งขึ้นในกรุงเทพฯและในปี 2022 ได้ฉลองครบรอบ 125 ปีแห่งการดำเนินงาน

เริ่มแรกโรงพยาบาล BNH ก่อตั้งโดยจอร์จ เกรนวิลล์ เอกอัครราชทูตอังกฤษ เพื่อเป็นสถานพยาบาลสำหรับชาวต่างชาติ ปัจจุบันได้พัฒนาเป็นโรงพยาบาลสหสาขาวิชาชีพ มีขนาด 120 เตียง และ 27 แผนก โดยมีชื่อเสียงโดดเด่นในด้านกุมารเวชศาสตร์ สูติ-นรีเวชวิทยา และการดูแลสุขภาพมารดา

ความแตกต่างระหว่างโรงพยาบาลเอกชนและโรงพยาบาลรัฐคืออะไร

ความแตกต่างหลักระหว่างโรงพยาบาลเอกชนและรัฐบาลอยู่ที่ ระยะเวลารอคอยในโรงพยาบาลเอกชนสั้นกว่ามาก ไม่ว่าจะเป็นการรอใช้เครื่องมือทางการแพทย์ พบแพทย์ หรือเข้ารับการผ่าตัดอย่างไรก็ตาม แต่ก็ต้องแลกมาด้วยค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าเช่นกัน

นับตั้งแต่ปี 2545 ประเทศไทยได้เริ่มใช้ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ทำให้ประชาชนไทยสามารถเข้าถึง การรักษาพยาบาลฟรีในโรงพยาบาลรัฐ แต่ปัญหาที่ตามมาคือระยะเวลารอคอยในห้องฉุกเฉิน การใช้เครื่องมือถ่ายภาพ การรักษาเฉพาะทาง และการผ่าตัดที่นานขึ้น จึงทำให้ผู้ป่วยจำนวนมากหันไปใช้บริการโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งแม้จะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่า แต่ให้บริการได้รวดเร็วกว่า

ข้อได้เปรียบอีกประการของโรงพยาบาลเอกชนคือ การดึงดูดแพทย์ผู้เชี่ยวชาญชั้นนำในสาขาต่างๆโรงพยาบาลเอกชนหลายแห่งเป็นสถานพยาบาลระดับตติยภูมิ ที่สามารถดูแลผู้ป่วยจำนวนมากที่มีปัญหาสุขภาพหลากหลาย เนื่องจากมีทีมแพทย์ที่เชี่ยวชาญครอบคลุมแทบทุกสาขา

ในโรงพยาบาลเอกชน แผนกที่มักพบได้แก่หน่วยใหญ่ ๆ เช่น อายุรกรรม โรคหัวใจ ผิวหนัง เวชศาสตร์ฉุกเฉิน ออร์โธปิดิกส์ ศัลยกรรม จิตเวช ประสาทวิทยา โสต ศอ นาสิก และกุมารเวชศาสตร์ ภายในหน่วยเหล่านี้และแผนกเฉพาะทางอื่นๆ จะมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านทางเดินอาหาร โรคภูมิแพ้ ศัลยกรรมตกแต่ง โรคติดเชื้อ โรคนอนไม่หลับ และรังสีวิทยา คอยให้บริการ

สำหรับชาวต่างชาติที่พำนักอยู่ในเมืองไทยหรือนักท่องเที่ยว สิ่งสำคัญที่ควรพิจารณาเลือกโรงพยาบาลเอกชนคือ บริการที่เป็นมิตรต่อชาวต่างชาติ เนื่องจากโรงพยาบาลเหล่านี้ให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ จึงพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้ผู้ป่วยรู้สึกอบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน ด้วยบริการล่ามแปลภาษาและการดูแลเอาใจใส่ข้างเตียงที่มีคุณภาพ

ประโยชน์ของการเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ใกล้โรงพยาบาลเอกชนในกรุงเทพฯ

หนึ่งในประโยชน์หลักของ การซื้ออสังหาริมทรัพย์ ใกล้โรงพยาบาลในกรุงเทพฯ คือ อสังหาริมทรัพย์เหล่านี้มักให้ ผลตอบแทนจากการลงทุนที่สูงกว่าเนื่องจากโรงพยาบาลมีผลต่อราคาอสังหาริมทรัพย์ในลักษณะเดียวกับสถานที่ราชการและมหาวิทยาลัย นั่นคือช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับการลงทุนนั่นเอง

นอกจากนี้ การมีที่พักอาศัยใกล้โรงพยาบาลยัง อำนวยความสะดวกให้กับผู้สูงอายุหรือผู้ที่ต้องได้รับการดูแลสุขภาพอย่างสม่ำเสมออีกทั้งอาคารที่พักมักจะใช้ระบบไฟฟ้าร่วมกับโรงพยาบาล ซึ่งหมายถึงการมีไฟฟ้าใช้อย่างเสถียรและน่าเชื่อถือ

โรงพยาบาลเอกชนในกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในย่านที่น่าสนใจ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวในตัวเอง ระบบเศรษฐกิจในท้องถิ่นที่ ได้รับแรงหนุนจากบุคลากรทางการแพทย์ที่มีรายได้สูงและนักท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ที่พำนักในพื้นที่ ยิ่งช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับย่านเหล่านี้ สะท้อนให้เห็นจากชื่อเสียงที่ดีและความต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่สูงขึ้นเรื่อยๆ

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตั้งถิ่นฐานในกรุงเทพฯ รวมถึงอสังหาริมทรัพย์น่าสนใจใกล้กับโรงพยาบาลเอกชน ติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท PropertySights Real Estate วันนี้เลย

ทีมบรรณาธิการ
ทีมบรรณาธิการของ PSRE ประกอบด้วยนักเขียน บรรณาธิการ และนักวิจัยมืออาชีพที่คอยตรวจสอบข้อเท็จจริงและเนื้อหาที่มีคุณภาพ เป้าหมายหลักคือการได้รับข้อมูลที่ถูกต้องบนหน้าเว็บสำหรับคุณซึ่งเป็นผู้อ่านเสมอ ในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ มีหลายสิ่งที่ต้องดำเนินการ แต่ความหวังของทีมบรรณาธิการคือการทำให้ง่ายขึ้น เพื่อที่คุณจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากการลงทุนของคุณ
แชร์บทความ:

ย่านอสังหาริมทรัพย์ของเรา ตามภูมิภาคต่างๆในกรุงเทพฯ พร้อมด้วยคุณลักษณะของแต่ละย่าน

กดติดตามเพื่อรับข่าวสารจากเรา
ค้นหาเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อเสนออสังหาริมทรัพย์ใหม่ล่าสุด
Scan this QR code or
add our line id: sing2022
thไทย